Durain

[ทุเรียนเงินล้าน][bsummary]

Date Palm

[อินทผลัม][twocolumns]

Cactus

[แคคตัส][bleft]

Adenium

[ชวนชม][bsummary]

ครอบครัวตราคูน

[ครอบครัวตราคูน][bsummary]

Garden

[จัดสวน][bsummary]

บันทึกการเดินทาง “คูนเยือนถิ่น” ไขความลับต้นทุเรียน “ทรงหมวกกันน็อค” สวนครูม่อก จ.ตราด

เสียงพูดคุยด้วย “สำเนียงทองแดง” อันเป็นเอกลักษณ์ ดังเซ็งแซ่เคล้ากับรอยยิ้มแห่งมิตรภาพ เมื่อคณะเดินทางจาก “ครอบครัวตราคูนภาคใต้” ก้าวลงสู่ผืนดินภาคตะวันออก แหล่งปลูกทุเรียนที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “มหานครแห่งผลไม้ของไทย”


นี่ไม่ใช่แค่การมาเที่ยวชมสวนธรรมดา แต่คือภารกิจสำคัญภายใต้โครงการ “คูนเยือนถิ่น” ที่จัดโดย บริษัท แพลนท์โพร (ประเทศไทย) จำกัด  (แพลนท์โพร ตราคูน) กิจกรรมที่เปรียบเสมือน “สะพานเชื่อม” พี่น้องเกษตรกรสองภูมิภาคเข้าด้วยกัน เพราะสำหรับครอบครัวตราคูน “ความรู้” คือสายน้ำที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง และการแบ่งปันคือหัวใจของการเติบโตและำัฒนาไปด้วยกัน


เป้าหมายหนึ่งของทริปนี้ คือ “สวนทุเรียนครูม่อก” สวนทุเรียนระดับตำนานที่มีอายุกว่า 68 ปี แต่สิ่งที่ทำให้พี่น้องชาวใต้ต้องตื่นตะลึงมากกว่าความเก่าแก่ คือ “รูปทรง” ของต้นทุเรียนที่แปลกตา ต่างไปจากภาพจำเดิมๆ

📌เมื่อความสูงไม่ใช่คำตอบ และตำนาน “ทรงฝาชีคว่ำ”

“ทำไมต้นมันเตี้ยแค่นี้ แล้วกิ่งข้างบนมันกว้างเหมือนหมวกกันน็อคเลย?” เสียงกระซิบถามไถ่ดังขึ้นเมื่อทุกคนเห็นทรงพุ่มทุเรียนของที่นี่


“พี่เมย์” คุณธนพล แสงสด ทายาทรุ่นลูกของสวนครูม่อก เดินออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเริ่มเล่าตำนานบทใหม่ที่ฉีกตำราเดิมๆ พี่เมย์เล่าว่า เดิมทีสวนนี้ก็เป็นทุเรียนต้นสูงลิบลิ่วเหมือนสวนทั่วไป จนกระทั่งได้ไปเปิดหูเปิดตากับ สวนลุงยงค์ คุณาวุฒิ” ปรมาจารย์ทุเรียนเมืองระยอง ผู้จุดประกายความคิดเรื่องการตัดแต่งทรงพุ่มทุเรียน

“เมื่อก่อนคนเขาว่าผมบ้า ตัดต้นทุเรียนจนเหี้ยน จะเอาลูกที่ไหนขาย” พี่เมย์เล่าย้อนอดีตอย่างอารมณ์ดี แต่รู้ไหมครับ พอตัดแล้ว แสงมันส่องถึงโคน ถึงกิ่งข้างในที่ไม่เคยโดนแดด กิ่งพวกนั้นมันแตกตา มันสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ต้นที่เคยโทรมๆ กลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง

พี่เมย์เรียกทรงนี้ว่า “ทรงหมวกกันน็อค” หรือ “ฝาชีคว่ำ” ซึ่งต่างจาก “ทรงเจดีย์” (ต้นสน) ทั่วไป ทรงเจดีย์นั้นกิ่งบนจะสั้น รับลูกได้น้อย แต่ทรงหมวกกันน็อคกิ่งบนจะยาว กว้าง แบกรับลูกสวยๆ ได้มาก แถมยังลดแรงปะทะจากพายุฤดูร้อนที่เคยพัดถล่มสวนเสียหายหนักในอดีต

📌ทำสวนวิถี “คนขี้เกียจ” แต่ต้นทุนต่ำ

บทเรียนสำคัญที่พี่น้องชาวใต้ได้รับในวันนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องตัดกิ่ง แต่คือ “วิธีคิด” ของการลดต้นทุน พี่เมย์แชร์ตัวเลขที่น่าสนใจ

เมื่อก่อนสวนนี้ใช้ยาปีละ 50,000 ลิตร แต่พอทำต้นเตี้ย ทรงพุ่มโปร่ง ปีนี้ผมใช้ยาเหลือแค่ 20,000 ลิตร

เสียงฮือฮาดังขึ้นในหมู่คณะดูงาน พี่เมย์ขยายความต่อว่า การทำสวนยุคใหม่ต้องทำให้เหมือน “คนขี้เกียจ” คือเน้นทำงานง่าย ตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก โรคแมลงก็น้อยลง พ่นยาก็ทั่วถึงและประหยัดต้นทุน

“สมมติราคาทุเรียนตกเหลือ 50 บาท ผมก็อยู่ได้สบาย เพราะต้นทุนผมบริหารจัดการให้อยู่ที่ 25 บาท” นี่คือ “กำแพงป้องกัน” ที่แข็งแกร่งที่สุดที่พี่เมย์มอบให้เป็นข้อคิด ไม่ว่าราคาตลาดจะผันผวนแค่ไหน ถ้าเราคุมต้นทุนได้ เราคือผู้ชนะ

📌การแลกเปลี่ยนจากตะวันออกสู่ภาคใต้

แม้สภาพอากาศของภาคใต้จะมีฝนชุกและฤดูกาลที่ต่างจากภาคตะวันออก แต่พี่น้องครอบครัวตราคูนภาคใต้ต่างเห็นตรงกันว่า หลักการพื้นฐานนั้นนำไปปรับใช้ได้จริง ซึ่งเป็นแนวทางการทำสวนทุเรียนยุคใหม่ 

เทคนิคการ “เลี้ยงกิ่งกระโดง” ไว้เป็นอะไหล่สำรอง เมื่อต้นหลักป่วยหรือแก่ ก็มีกิ่งใหม่ขึ้นมาแทนที่ได้ทันที หรือเรื่องความสำคัญของ “แสงแดด” ที่เป็นกุญแจสำคัญของการสังเคราะห์แสงและสร้างดอก ล้วนเป็นเทคนิคที่พี่น้องชาวใต้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสวนของตนเองได้ เพื่อยกระดับผลผลิตให้มีคุณภาพ

กิจกรรม “คูนเยือนถิ่น” ในครั้งนี้ ไม่ได้จบลงแค่การดูงาน แต่คือการกระชับความสัมพันธ์ ระหว่างการเดินชมสวน พี่น้องสองภูมิภาคได้แลกเปลี่ยนเบอร์โทร ไลน์ และเทคนิคส่วนตัวกันอย่างออกรส

แพลนท์โพร ตราคูน ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า การทำเกษตรยุคใหม่ ไม่ใช่การเดินอย่างโดดเดี่ยว แต่คือการเดินไปพร้อมกัน เป็นเครือข่ายที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องจากด้ามขวาน หรือพี่น้องจากบูรพา เมื่อตัดสินใจเลือก แพลนท์โพร ตราคูน ทุกคนคือ “ครอบครัวเดียวกัน”


การเดินทางมาเยือนตะวันออกครั้งนี้ อาจเป็นเพียงทริปสั้นๆ แต่เชื่อว่า “เมล็ดพันธุ์แห่งความรู้” และ “แรงบันดาลใจ” ที่ได้รับจากสวนครูม่อก จะถูกนำกลับไปเพาะบ่มในดินแดนภาคใต้ และงอกงามเป็นความสำเร็จที่ยั่งยืนต่อไป


ขอขอบคุณ บริษัท แพลนท์ โพร (ประเทศไทย) จำกัด 109/391 ม.2 ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม 73210 โทร: 02-408-9439