ฝรั่งไส้แดง หงเป่าสือ ขึ้นชื่อว่าเป็นฝรั่งอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่น่าปลูก เพราะเนื้อสีชมพูสวยงาม มีรสชาติดีไม่เป็นรองสายพันธุ์อื่น หวาน กรอบ เมล็ดน้อย เหมาะสำหรับการทานสดหรือแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม ด้วยสีสันสีชมพูสดใสและกลิ่นหอมหวานทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดอยู่ไม่น้อย
ก่อนหน้านี้เราอาจจะเคยเห็นว่ามีการจำหน่ายกิ่งพันธุ์ราคาค่อนข้างสูงในออนไลน์
ส่วนผลฝรั่งหงเป่าสือนั้นก็ยังได้ชิมเฉพาะกลุ่ม ยังไม่มีการจำหน่ายผลผลิตอย่างแพร่หลายนัก
แต่ปัจจุบันเราได้เห็นฝรั่งไส้แดงหงเป่าสือในร้านผลไม้หรือร้านผลไม้รถเข็นอยู่บ้างแม้จะไม่มากนัก
นั่นหมายความว่าหงเป่าสือสอบผ่านบททดสอบและเข้าสู่ตลาดจริงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เว็บต้นไม้และสวน ได้พูดคุยกับ คุณนพดล
ศรีสมบุญ เจ้าของ สวนลุงนพ ใน อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร
ผู้ผลิตฝรั่งหงเป่าสือรายใหญ่และเป็นสวนแรกๆ ที่ปลูกฝรั่งหงเป่าสือในระบบสวนเชิงเศรษฐกิจและได้ลงต้นพันธุ์ชุดแรกไปประมาณ
600 ต้นแทนที่ต้นองุ่นที่ราคาไม่สู้ดีนัก
คุณนพดลให้ข้อมูลว่าฝรั่งไส้แดง หงเป่าสือ
เป็นพืชที่น่าปลูกเมื่อเทียบกับพืชตัวอื่น เพราะเป็นพืชที่ให้ผลผลิตไว
ตั้งแต่ต้นอายุ 7-8 เดือน ในส่วนของรสชาติ เนื้อสัมผัส และสีสันก็สวยงามไม่เป็นสองรองใคร
โดยรวมแล้วมองว่าหงเป่าสือตอบโจทย์ในทุกๆ องค์ประกอบ
เทคนิคการผลิตฝรั่งหงเป่าสือให้ได้คุณภาพนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป เพราะตามธรรมชาติแล้วฝรั่งเป็นพืชที่มีความแข็งแรงทนทาน สามารถให้ผลผลิตได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ดังนั้นการจัดการที่ทางสวนต้องเน้นก็คือเรื่องการดูแลต้นให้สมบูรณ์เพื่อที่จะรองรับการให้ผลผลิตนั่นเอง
👉การจัดการปุ๋ยสำหรับฝรั่งหงเป่าสือ
เคล็ด (ไม่) ลับจากสวนลุงนพ คือ
การใส่ปุ๋ย สูตรเสมอ 16-16-16 หรือ 17-17-17 เดือนละ 2 ครั้ง
เน้นการใส่บ่อยแต่ใส่ครั้งละน้อยๆ ไม่เกิน 100 กรัม หรือ 1 ช้อนโต๊ะกว่าๆ
เท่านั้นเอง แต่ถ้าอยากเร่งความหวานให้ผลฝรั่งอาจเร่งด้วยปุ๋ยสูตรตัวท้ายสูง เช่น
8-24-24 หรือ 13-13-21 ได้
แต่ต้องเน้นย้ำว่าอย่างใส่เยอะเพราะแทนที่จะเป็นประโยชน์จะกลับกลายเป็นโทษกับต้นฝรั่งเสียเปล่าๆ
👉วิธีทำให้ฝรั่งหงเป่าสือติดผลผลิต
ต้นฝรั่งหงเป่าสือที่สวนลุงนพเริ่มให้ผลผลิตจากจากปลูกเพียง
4 เดือนเท่านั้น
แต่ควรยืดเวลาออกไปอีกสักเล็กน้อยเพื่อให้ต้นได้เติบโตสะสมอาหารอย่างเต็มที่
โดยคุณนพแนะนำว่าต้นควรมีอายุไม่น้อยกว่า 5 เดือน และเริ่มไว้ลูกเพียง 4-5 ลูกก่อน
อย่างที่กล่าวในข้างต้นว่าฝรั่งหงเป่าสือเป็นไม้ผลที่สามารถติดผลได้เองและสามารถให้ผลผลิตได้ทั้งปี ช่วงที่ติดดอกมากที่สุดคือเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ แต่ผู้ปลูกสามารถกระตุ้นให้ต้นฝรั่งออกดอกและติดผลด้วยการตัดแต่งยอดที่ไม่แก่เกินไปหรือไม่อ่อนเกินไปออกไป หรือกิ่งที่มีสีเขียวออกน้ำตาลนิดๆ มีใบสีเขียวเข้ม จะเป็นกิ่งที่สะสมอาหารมาแล้วพร้อมที่จะแตกยอดแล้วก็มีดอกออกมาด้วย เกือบ 100% โดยวิธีตัดคือนับจากโคนกิ่งมา 5-6 คู่ใบ แล้วตัดได้เลย หลังจากติดแล้วจะมีกิ่งใหม่แตกออกมาและเป็นกิ่งที่พร้อมให้ดอกส่วนใหญ่จะอยู่ที่ข้อใบที่ 3-4 หลังจากออกดอกต้องหมั่นรดน้ำอย่าให้ขาด โดยทางสวนจะรดน้ำแบบวันเว้นวัน แต่ถ้าเป็นช่วงที่อากาศร้อนต้องรดทุกวันเพื่อให้ต้นได้รับน้ำและสารอาหารอย่างต่อเนื่อง ยิ่งก้านดอกมีขนาดใหญ่-สมบูรณ์ก็จะมีโอกาสติดผลผลิตมากขึ้น
👉วิธีการห่อผลฝรั่งหงเป่าสือ
คุณนพแนะนำให้เริ่มห่อผลฝรั่งที่มีขนาดประมาณเหรียญ
5 บาท จะเป็นไซส์ที่โอกาสหลุดร่วงน้อย เลือกผลที่สมบูรณ์ที่สุด ไม่บิดเบี้ยว
เน้นลูกที่ทรงกลมสวย โดยเฉพาะกิ่งที่ติดดอกพร้อมกันทั้ง 2
ข้างนั้นให้เด็ดออกลูกหนึ่งเพื่อให้ลูกที่เหลือเติบโตอย่างสมบูรณ์
การห่อผลฝรั่งจะห่อ 2 ชั้น คือ ชั้นแรกห่อด้วยถุงพลาสติกหูหิ้วเบอร์ 6x12 นิ้วที่เจาะรูด้านล่างเพื่อให้น้ำไหลออก จากนั้นห่อทับด้วยกระดาษเพื่อพรางแสงให้ผลฝรั่งผิวขาวสวยเป็นที่ต้องการของตลาด หลังจากห่อถุง 55-60 วัน จะสามารถเก็บผลผลิตได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และสภาพอากาศ จึงต้องมีการเช็คผิวของผลฝรั่งก่อนตัด 1-2 รอบ
👉การจัดการเรื่องโรค-แมลง
ของฝรั่งหงเป่าสือ
เนื่องจากฝรั่งหงเป่าสือเป็นไม้ใบหนาจึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเชื้อราหรือโรคทางใบต่างๆ
มากนัก เท่าที่คุณนพเห็นก็มีเพียงเพลี้ยแป้งที่กำจัดได้ไม่ยากนัก สามารถใช้สาร
ฟิโนบูคาร์บ (fenobucarb), คาร์โบซัลแฟน (carbosulfan), พิริมิฟอส-เมทิล
(pirimiphos-methyl) และ โพรฟีโนฟอส (profenofos) ซึ่งตัวหลังนี้มีกลิ่นค่อนข้างฉุนจึงไล่แมลงวันทองได้ด้วย
การฉีดสารเคมีแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ
ป้องกัน และกำจัด โดยปกติแล้วที่สวนจะเน้นการฉีดป้องกันไว้ก่อนประมาณ 15-20
วัน/ครั้ง แต่ถ้าเว้นไว้นานจนเกิดโรค-แมลงลุกลามแล้วต้องฉีดแบบเข้มข้นเพื่อกำจัด
ซึ่งการฉีดแบบเข้มข้นนี้ค่อนข้างเป็นอันตรายกับผู้ปฏิบัติงานอีกทั้งไม่ทันท่วงทีอีกด้วย
ซึ่งการใช้สารเคมีจำเป็นสำหรับการทำสวนเชิงพาณิชย์เพื่อให้ได้ผลผลิตที่สวยงามเป็นที่ต้องการของตลาด
แต่สำหรับการปลูกไว้ทานเองหรือจำหน่ายเพียงเล็กน้อย 5-10
ต้นนั้นแทบจะไม่ต้องใช้สารเคมีเลย
👉ผลผลิตและการตลาดฝรั่งหงเป่าสือ
เริ่มแรกสวนลุงนพจำหน่ายผลฝรั่งหงเป่าสือผ่านกลุ่มต่างๆ
ในช่องทาง Facebook จนเป็นที่รู้จักและมีแม่ค้าที่ต้องการจำหน่ายผลไม้แปลกใหม่ติดต่อเข้ามาซึ่งก็มีทั้งรับแบบหน้าสวนและขายออนไลน์
แม้จะมีผลผลิตจำหน่ายเพียง 100-200 กก.
แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จและเป็นใบเบิกทางสำหรับโอกาสต่อไป
ตอนหลังต้นฝรั่งหงเป่าสือภายในสวนเริ่มโตขึ้นก็มีผลผลิตเพิ่มมากขึ้นเป็น
500-1,000 กก. จึงเริ่มติดต่อตลาดกลาง เช่น ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง
หรือในกลุ่มผู้ส่งออกผลไม้ไปที่มาเลเซีย เพราะกลุ่มนี้ต้องการผลไม้จำนวนมาก
ทำให้ตอนนี้ไม่มีปัญหาเรื่องตลาดเรื่องตลาด เรียกว่าถ้ามีผลผลิตก็สามารถส่งได้เลย
เพราะมีตลาดรองรับแล้ว ในส่วนชองราคานั้นขายส่งอยู่ที่ 80 บาท/กก.
แต่ถ้าส่งตลาดใหญ่หรือมาเลเซียที่ต้องการปริมาณมากๆ ก็อาจจะลดราคาเหลือ 50-60 บาท
จุดแข็งของฝรั่งไส้แดงหงป่าสือ คือ เป็นผลไม้ใหม่ รสชาติดี สีสันสวนงาม จึงเป็นที่ต้องการของตลาด เมื่อยังมีปริมาณไม่มากนักจึงสามารถกำหนดราคาได้ เฉลี่ยแล้วฝรั่ง 1 กก. จะมี 4-5 ผล ตีว่าราคาผลละ 10 กว่าบาท ทั้งยังสามารถเก็บผลผลิตได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย
👉กิ่งตอนฝรั่งหงป่าสือขายดีไม่แพ้ผลสด
นอกจากจะขายผลแล้วสวนลุงนพยังมีกิ่งตอนฝรั่งไส้แดงหงป่าสือจำหน่ายด้วย
โดยฝรั่งต้นหนึ่งตอนกิ่งได้ประมาณ 30-50 กิ่ง/รุ่น ใช้เวลาประมาณ 80-90
วันรากจึงเดินดี ในกระบวนการตอนนี้จะมีกิ่งเสียหรือกิ่งที่ตอนแล้วรากไม่เดินอยู่
15-20% ปัจจุบันมีกิ่งตอนจำหน่ายอยู่ 2 แบบ คือ กิ่งตอนแบบตุ้มเอาไปชำเอง 60 บาท
และ กิ่งตอนแบบชำถุงรากเดินแล้วพร้อมปลูก ต้นละ 80 บาท
ถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อก่อน
👉 ขอขอบคุณ ภาพประกอบ คุณนพดล ศรีสมบุญ : สวนลุงนพ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร โทร. 09-1083-4755
ดูคลิปวิดีโอ