Durain

[ทุเรียนเงินล้าน][bsummary]

Date Palm

[อินทผลัม][twocolumns]

Cactus

[แคคตัส][bleft]

Adenium

[ชวนชม][bsummary]

Garden

[จัดสวน][bsummary]

Date Palm : อินทผลัมเพาะเนื้อเยื่อ VS เพาะเมล็ด เลือกปลูกอย่างไหนดี...???


เมื่ออินทผลัมกลายเป็น “ผลไม้” ตัวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในประเทศไทย จนได้สมญานามจากคนที่พิสมัยพืชตัวนี้ว่า เป็น “พืชทองคำ” เพราะนอกจากจะมีผลเป็นสีทองแล้ว ยังมีคุณภาพทางโภชนาการสูง ราคาผลแพง มีตลาดในรองรับ และต่างประเทศที่นิยมมาช้านาน

เห็นได้จากฤดูกาลผลผลิตในปีที่ผ่านมา แต่ละสวนที่ให้ผลผลิตขายดีเหมือนแจกฟรี สวนที่มีชื่อ ต้องจองข้ามปีกันเลยทีเดียว

กระแสดังกล่าว จึงเป็นดั่ง “น้ำหวาน” ให้เกิดผู้สนใจปลูกอินทผลัมกันจำนวนมาก ทั้งปลูกแบบไว้กินเอง ปลูกพื้นที่น้อยๆ และลงทุนสวนขนาดใหญ่

แต่ปัญหาหนักเอาการของคนคิดจะปลูกอินทผลัม คือ เรื่องของพันธุ์ เรื่องของเพศ เนื่องจากอินทผลัมเป็นพืชไม่สมบูรณ์เพศ แยกต้นผู้ต้นเมีย ร้อยทั้งร้อยของคนซื้อก็อยากจะได้ต้นตัวเมียเยอะๆ สูตรในฝันคือ ต้นตัวเมีย 70-80% ต้นตัวผู้ 20-30%

แต่เรื่องจริงกลับสั่งอย่างนั้นไม่ได้ เพราะไม่มีใครรู้ได้ว่าต้นไหนเป็นผู้หรือเมีย จนกว่าจะเห็นดอกเห็นผล ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี เป็นอย่างต่ำ ขนาดเซียนๆ มากประสบการณ์ ยังไม่กล้าฟันธงเรื่องนี้เลย

จนเมื่อปีสองปีที่ผ่านมา มีการนำเข้าอินทผลัมที่ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเข้ามาในเมืองไทย ซึ่งสามารถกำจัดจุดอ่อนของไม้เพาะเมล็ดได้เกือบทุกข้อ โดยเฉพาะสามารถเลือกต้นผู้ต้นเมียได้

แต่ก็ต้องแลกด้วยเงินค่อนข้างสูงกว่าไม้เมล็ดหลายเท่า เมื่อเนื้อเยื่อราคาต้นละ 1,000-งพ1,200 บาท ส่วนเพาะเมล็ดสูงสุดไม่เกิน 200 บาท คำถามคือ เราควรจะเลือกแบบไหนดี

แต่ก่อนอื่นเราลองมาเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของทั้งสองแบบกันก่อนว่าเป็นอย่างไร
กล้าอินทผลัมพันธุ์บาร์ฮี เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
ข้อดี-ข้อเสีย ของอินทผลัม เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

1.สามารถเลือกต้นตัวผู้และต้นตัวเมียได้ โดยเฉพาะต้นตัวเมียที่ใครๆ ก็อยากได้ ต่างจากไม้เพาะเมล็ดไม่สามารถรู้ต้นเพศผู้เพศเมียได้จนกว่าจะออกดอก ซึ่งต้องใช้เวลา 2-3 ปี เป็นอย่างน้อย

2. อินทผลัมเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อมีคุณภาพเหมือนต้นแม่ เนื่องจากในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อจะมีการคัดเลือกต้นที่มีคุณสมบัติดี ก่อนจะนำไปเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ซึ่งก็คือการโคลนนิ่งมาจากแม่พันธุ์คุณภาพดีนั่นเอง จึงให้ผลผลิตเร็ว และมีคุณภาพ

แต่จุดอ่อนของการปลูกอินทผลัมเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อในประเทศไทย คือ ต้นทุน เนื่องจากใช้เทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ในต่างประเทศมีต้นทุนสูง เมื่อต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศด้วยแล้ว ผ่านการจัดการด้านโสหุ้ยอะไรต่างๆ แล้ว จึงมีราคาสูง โดยเฉพาะแล้วราคาประมาณต้นละ 1,000-1,200 บาท

อีกทั้งยังไม่มีการยืนยันว่าเมื่อนำมาปลูกในประเทศแล้วจะให้ผลผลิตคุณภาพ และเจริญเติบโตดีกับสภาพภูมิอากาศในประเทศไทยหรือไม่
ต้นกล้าอินทผลัมเพาะเมล็ด
ข้อดี-ข้อเสีย อินทผลัมเพาะเมล็ด

1.ขยายพันธุ์ง่าย เพิ่มจำนวนได้เร็ว
2.ต้นทุนต่ำ เพียงต้นละ 200 บาท ปลูกขยายจำนวนพื้นที่มากๆ ได้
3.ทนต่อสภาพอากาศในประเทศไทย รวมถึงต้านทานโรคและแมลงได้ดี จึงโตไว
4.ถ้ามีดวงฟรุ๊คอาจจะได้ต้นที่เกิดจากการกลายพันธุ์แล้วมีลักษณะดี คุณสมบัติดี รสชาติดี เป็นต้น

แต่ข้อเสียข้อเสี่ยงก็มากพอดู เพราะอินทผลัมเป็นพืชในตระกูลปาล์ม ไม่สมบูรณ์เพศ มีต้นตัวผู้ ต้นตัวเมีย แยกกัน ดังนั้นต้นที่เพาะเมล็ดจึงยังไม่อาจรู้ได้ว่ามีเพศอะไร กว่าจะรู้กินเวลาอย่างน้อย 2-3 ปี เป็นอย่างต่ำ

ตามประสาของคนปลูกคนลงทุนปลูกอินทผลัมก็ต่างต้องการต้นตัวเมียมากๆ หวังให้ได้ผลผลิตเยอะๆ แต่ว่ากันว่าถ้าสัดส่วนตันตัวผู้กับต้นตัวเมียในรุ่นเดียวกันจะมีสัดส่วน 50 : 50 แม้จะมีวิธีการดูลักษณะต้นจากผู้ชำนาญก็ตาม ก็ยังไม่มีใครกล้าฟันธง ดังนั้นเมื่อเราซื้อ 100 ต้น อาจจะได้ต้นตัวเมีย 50 ต้น ต้นตัวผู้ 50 ต้น จากนั้นยังต้องมาดูอีกว่าตัวเมีย 50 ต้น มีคุณสมบัติดีอีกกี่ต้น ซึ่งน่าจะต่ำกว่า 50 ต้นแน่นอน การปลูกอินทผลัมเพาะเมล็ดจึงเสี่ยงสูง

เมื่ออินทผลัมเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และ เพาะเมล็ด ไม่เพอร์เฟ็คทั้งคู่ คำถามคือ เราจะเลือกปลูกแบบไหนดี จึงจะคุ้มค่าที่สุด

เรานำประเด็นนี้ไปสอบถาม  คุณปรีชา ธรรมชูเชาวรัตน์ เจ้าของ สวนอินทผลัม ปรีชา นนทบุรี” ที่มีประสบการณ์ปลูกอินทผลัมแบบเพาะเมล็ดในพื้นที่ 50 กว่า ไร่ ใน จ.นนทบุรี และเมื่อเร็วๆ นี้ ได้นำเข้าอินทผลัมเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพันธุ์ บาร์ฮี (Barhi) และ คาลาส (Khalas) จากต่างประเทศมาปลูกและจำหน่าย 
คุณปรีชา ธรรมชูเชาวรัตน์
คุณปรีชา แนะนำว่า ต้นกล้าอินทผลัมเพาะเนื้อเยื่อราคาสูงกว่าก็จริง แต่มีความแน่นอนเรื่องเพศ จึงเหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่น้อย ไม่ต้องการความเสี่ยง ต้องการปลูกไว้รับประทานที่บ้านสัก 3-5 ต้น มีต้นตัวผู้สัก 1-2 ต้นก็เพียงพอ ต้นพันธุ์เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

แต่ถ้าต้องการปลูกจำนวนมากหลายสิบต้นหรือเป็นร้อยต้น อาจไม่จำเป็นต้องใช้ต้นเพาะเนื้อเยื่อทั้งหมด ให้เลือกซื้อไม้เพาะเมล็ด จำนวนหนึ่ง ซึ่งจะมีสัดส่วนต้นตัวผู้-ตัวเมีย อย่างละ 50% ถ้าซื้อ 100 ต้น ต้นทุนกล้าส่วนนี้ประมาณ 20,000 บาท (ราคาต้นละ 200 บาท)

จากนั้นจึงเลือกซื้อไม้เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อตัวเมีย ซึ่งชัวร์เรื่องเพศเข้ามาเสริมตามเงินและทุนในกระเป๋า โดยสวนอินทผลัมปรีชาขายราคาต้นละ 1,000-1,200 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนต้นที่ซื้อ

ส่วนถ้าใครที่ต้องการความชัวร์ แล้วมีความพร้อมด้านที่ดิน และทุน จะเลือกแบบเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อทั้งหมดก็ได้ เนื่องจากมีต้นตัวผู้-ตัวเมียให้เลือก
พันธุ์คาลาส (Khalas) เพาะเนื้อเยื่อ ต้นตัวผู้มีเกสรตัวผู้มากเหมาะสำหรับปลูกเพื่อเก็บเกสรไว้ผสม
อย่างไรก็ตามคุณปรีชาบอกว่า คนปลูกไม่ควรรังเกียจหรือกลัวตันตัวผู้มากนัก เพราะอย่างไรก็ตามต้นตัวผู้ก็ขาดไม่ได้ และต้องมีปริมาณที่เพียงพอกับต้นตัวเมีย อีกทั้งต้นตัวผู้ก็ไม่ได้ดีทุกต้น บางต้นให้เกสรยาก เกสรไม่สมบูรณ์ ไม่แข็งแรง เป็นต้น

“ในระยะ 2-3 ปีแรก ที่อินทผลัมเริ่มให้ผลผลิต อาจต้องใช้เกสรตัวผู้มากหน่อยเพื่อให้เพียงพอกับการผสมกับต้นตัวเมียทั้งหมด หลังจากนั้นเราก็เลือกเฉพาะต้นตัวผู้ที่ให้เกสรดี จำนวนต้นที่เหมาะสมกับตันตัวเมีย ที่เหลือเราสามารถขุดออกเพื่อจำหน่ายเป็นไม้จัดสวนได้อีกทางหนึ่ง เพราะต้นอินทผลัมเป็นไม้ฟอร์มสวย จัดสวนได้เช่นเดียวกับปาล์มประดับ ทั้งยังมีใบสีเขียวอมฟ้าที่กำลังนิยมในกลุ่มนักจัดสวนด้วย”
ผลอินทผลัมพันธุ์บาร์ฮี  นำเข้าผลสดมาจากต่างประเทศ
รู้จักอินทผลัม สายพันธุ์บาฮี (Barhi)

มีแหล่งกำเนิดในประเทศอิรัก เหมาะกับทานผลสดโดยเฉพาะ ได้รับสมญานามเป็น แอบเปิ้ลแห่งตะวันออกกลาง” ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ

ลักษณะผลรูปทรงไข่ อ้วนกลม ผลอ่อนสีเขียวเข้ม จากนั้นจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองเมื่อแก่จัด และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลปนสีเหลืองมีเนื้อนิ่ม แต่นิยมทานผลสดมากกว่า เนื้อกรอบ รสชาติหวาน #gardenner #จัดสวน
กล้าอินทผลัมพันธุ์บาร์ฮี เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

อินทผลัมพันธุ์ KL1 แม่โจ้ ปลูกด้วยไม้เพาะเมล็ด ให้ผลผลิตเร็ว

ต้นกล้าอินทผลัม จากเพาะเมล็ด

ต้นกล้าอินทผลัม จากเพาะเมล็ด ไซส์ใหญ่

ปลูกด้วยไม้เมล็ด ย่านปากเกร็ด นนทบุรี
อุปกรณ์ช่วยผสมเกสรของคุณปรีชา โดยใช้เกสรตัวผู้ผสมกับแป้งฝุ่น แล้วใช้อุปกรณ์นี้พ่นไปยังเกสรตัวเมีย ช่วยให้ประหยัดเกสรตัวผู้

ต้นกล้าอินทผลัม จากเพาะเมล็ด พันธุ์ KL1 แม่โจ้ 36 200 บาท
ส่งออกอินทผลัมเพาะเมล็ดไปต่างประเทศ

ขอขอบคุณ
คุณปรีชา ธรรมชูเชาวรัตน์
ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกษตร สวนอินทผลัม ชวนชม ลีลาวดี ปรีชา
70 หมู่ 2 ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120 โทรศัพท์ 08-1309-6086, 08-7320-5009
เยี่ยมชม Facebook Page http://goo.gl/eEd7aK











ลงโฆษณา โทร 086 335 2703