ต้นแบบอะโวคาโดบนพื้นที่สูง จ.เพชรบูรณ์ สร้างรายได้ยั่งยืนกว่า 8 แสนบาทต่อปี
ไฮไลท์
แปลงต้นแบบเกษตรบนพื้นที่สูง : “สนาม ด้วงโป้” เกษตรกรอำเภอเขาค้อ เพชรบูรณ์ ใช้พื้นที่กว่า 15 ไร่ ทำเกษตรผสมผสาน เน้นปลูกอะโวคาโดคุณภาพ
ผลผลิตหลากหลาย : อะโวคาโดพันธุ์การค้า Hass, Pinkerton, Booth 7 ฯลฯ ขายได้ 50–100 บาท/กก. และพันธุ์พื้นเมืองขาย 35–40 บาท/กก. กระจายผลผลิตตลอดปี
รายได้มั่นคง : รวมพืชผสมผสาน เช่น ทุเรียน มังคุด ลองกอง อินทผลัม และข้าวเหนียวดำลืมผัว ทำให้มีรายได้หมุนเวียนกว่า 600,000 – 800,000 บาทต่อปี
อะโวคาโดเชิงพาณิชย์ สร้างผลตอบแทนคุ้มค่า
สวนของนายสนามปลูกอะโวคาโดหลายสายพันธุ์ ทั้งพันธุ์การค้า ได้แก่ Hass, Pinkerton, Booth 7, Buccaneer และ Peterson รวมถึงพันธุ์พื้นเมืองที่เกษตรกรในพื้นที่คุ้นเคย โดยพันธุ์การค้าให้ผลผลิตหลักในช่วง สิงหาคม – พฤศจิกายน ราคาจำหน่ายเฉลี่ย 50 – 100 บาท/กิโลกรัม ส่วนพันธุ์พื้นเมืองให้ผลผลิตช่วง มิถุนายน – สิงหาคม ราคาประมาณ 35 – 40 บาท/กิโลกรัม ช่วยกระจายช่วงเวลาเก็บเกี่ยวและสร้างรายได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี
เกษตรผสมผสาน ลดความเสี่ยง เพิ่มความมั่นคง
นอกจากอะโวคาโดแล้ว นายสนามยังทำเกษตรผสมผสาน โดยปลูกผลไม้หลากหลายชนิด เช่น ทุเรียน ลองกอง อินทผลัม มังคุด แก้วมังกร เงาะ เซียนท้อ รวมทั้งพืชสมุนไพรและข้าวเหนียวดำลืมผัว การปลูกพืชที่หลากหลายไม่เพียงลดความเสี่ยงด้านราคาและผลผลิต แต่ยังช่วยให้ครอบครัวมีผลผลิตใช้บริโภคเอง พร้อมทั้งจำหน่ายผ่าน ช่องทางออนไลน์และหน้าสวน
รายได้หมุนเวียนกว่า 600,000 – 800,000 บาทต่อปี
การจัดการแปลงที่ได้มาตรฐาน และการสนับสนุนด้านวิชาการจากกรมวิชาการเกษตร ตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์ การปลูก การดูแลรักษา ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวและขยายพันธุ์ ส่งผลให้สวนของนายสนามมีรายได้หมุนเวียนปีละกว่า 600,000 – 800,000 บาท ถือเป็นตัวอย่างชัดเจนของการทำเกษตรเชิงเศรษฐกิจที่เน้น คุณภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืน
ศูนย์เรียนรู้เพื่อเกษตรกรและนักท่องเที่ยว
ความสำเร็จของนายสนามทำให้แปลงของเขาได้รับการยกย่องเป็น ศูนย์เรียนรู้ด้านการผลิตอะโวคาโดบนพื้นที่สูง มีเกษตรกร นักศึกษา และหน่วยงานรัฐเข้ามาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง นับเป็นโมเดลที่สะท้อนให้เห็นว่า “เกษตรสมัยใหม่” สามารถสร้างทั้ง รายได้ที่มั่นคง และ โอกาสทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น
